สงกรานต์ เข้ายาม

สงกรานต์ปีนี้ หยุดยาว ตั้งแต่ 13-18 เม.ย. 53 แต่บางคนก็กลับบ้านต่างจังหวัดกันตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 9 แล้วก็ลาวันจันทร์ที่ 12 ไปด้วยเลย ก็ได้หยุดแบบย๊าว ยาว เลยทีเดียว แต่ตัวเราก็เข้ายามวันที่ 13 นี้พอดีเลย ก็ไม่เป็นไร ชอบอยู่แล้วอยู่เรือ สบายดีออก แอร์ก็เย็น อาหารก็มีครบ 3 มื้อ แม้ว่าจะไม่อร่อยเท่าไหร่ มีอินเตอร์เน็ตให้เล่น มีทีวี มีเพลงให้ฟัง อะไรจะสบายไปกว่านี้ไม่มี สงบดีด้วย

ตอนเช้าขี่มอเตอร์ไซค์มา เลขไมล์สวยมากเลย 11111 กิโลเมตรละ (แต่จริง ๆ แล้วคงเยอะกว่านี้ เพราะตอนไปทริปอีสาน ไมล์เสีย วัดระยะทางไม่ได้สัก 300-400 กม. เห็นจะได้)

อยู่ยามวันนี้ก็เอา โปสการ์ดมาเขียนส่งต่อ เหลืออีกประมาณ 10 คนได้ ที่ยังไม่ได้ส่ง ก็ต้องรีบส่งหน่อย เพราะว่าดองมาเดือนนึงแล้ว เดี๋ยวจะโดนว่าเอา เวลาที่เหลือก็นั่งเล่นเน็ต ดูหนัง วันนี้ไม่มีอะไรเลย เหตุการณ์ปกติ

ตอนกลางคืนสามทุ่มกว่า ลงไปดูห้องเครื่อง ตรวจน้ำท้องเรือ ตรวจความเรียบร้อยห้องหับต่าง ๆ ก็ดูตั้งแต่ห้องโซนาร์หัวเรือ ไปยันห้องหางเสือท้ายเรือ ตอนลงห้อง Aux II ก็เสียว ๆ ว่า จะเจอจอห์นหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีอะไร

ส่วนตอนนอน ทีแรกว่าจะนอนในห้องโถง แต่น้องโป่งมาจับจองที่ซะแล้ว ก็เลยนอนในห้องนอน ก็มีเสียว ๆ อยู่เหมือนกันว่า จะมีคนปีนขึ้นที่นอนเหมือนตอนที่น้องชก. นอนหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีอะไร ห้องนอนก็เย็นดี นอนหลับสบาย

สรุปว่าตัวเราคงจะไม่เจออะไรในเรือนี้หรอกมั้ง เพราะอยู่มาก็นานแล้ว ก็ไม่เคยเจออะไร มีแว๊บ ๆ บ้าง แต่ก็เหมือนว่าจะคิดไปเองมากกว่า เอาน่า เราก็คิดดี ทำดี ทำเพื่อเรือมาตลอด สิ่งศักดิ์สิทธิกับเหล่าวิญญาณในเรือคงไม่มาแกล้งกันหรอกน่า

สรงน้ำพระที่เรือ

ช่วงก่อนหยุดสงกรานต์ เป็นประจำทุกปี ที่จะต้องมีพิธีสรงน้ำพระกันบนเรือ ซึ่งปีนี้เราอยู่เรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย ที่นี่ก็มีพระอยู่เยอะมาก เพราะเป็นเรือใหญ่ มีห้องหับเยอะ ก็เลยมีพระเยอะตามไปด้วย ซึ่งบรรยากาศในวันนี้ก็สบาย ๆ ทุกคนมีความสุข คือสบายใจได้รดน้ำขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเรือ และจะได้ปล่อยกลับบ้านด้วย

สีทนความร้อน Rust-Oleum

วันนี้เลื่อนเรือไปติดตั้งกล่องฮาร์พูน เพื่อเตรียมตัวไปเยี่ยมเมืองท่า กรุงพระสีหนุวิลล์ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เรือได้ติดตั้งกล่องฮาร์พูน ปกติก็จะเก็บรักษาไว้ที่คลัง ไม่เอามาตากแดดตากลม ตากไอทะเล ให้เสียหาย เพราะของมันแพง

หลังจากนั้นตอนบ่ายก็ออกมาขึ้นรถสวัสดิการเข้ากรุงเทพฯ เพื่อที่จะไปซื้อสีกันความร้อน ที่หาซื้อไม่ได้แถว ๆ สัตหีบ , พัทยา และ ระยอง ซึ่งก็ติดต่อกับทางร้านไว้แล้ว แต่ก็กลัวอยู่ว่าจะเข้าไปไม่ทัน แต่สุดท้ายก็เข้าไปทัน อีก 10 นาทีร้านปิดพอดี โดยลงรถที่บางนา แล้วต่อรถแท๊กซี่เลย แต่พอได้สีแล้ว ก็ขึ้นรถสองแถว กับรถเมล์กลับบ้าน สีหนักมาก กระป๋องสีหนัก 4.4Kg ทินเนอร์ หนัก 3.5 Kg เป้หลังเราอีก 4 Kg หนักค่อด ๆ

พูดถึงสีทนความร้อนแล้ว คงต้องเขียนถึงหน่อย เผื่อมีทหารเรือท่านใดอยากได้ข้อมูล จะได้เสิร์ชมาเจอ เพราะว่าหาข้อมูลยากมาก ลำบากในการตามหาจริง ๆ ใครเสิร์ชมาเจอหน้านี้ก็โชคดีไปละกัน ไม่ต้องไปวิ่งหาซื้อมั่ว ๆ หรือหาข้อมูลที่ไหน

สีทนความร้อน ยี่ห้อ Rust-Oleum เบอร์ 4279 สีดำ ทนความร้อน 300-800^๐F (149-427^๐C) ใช้คู่กับ Primer เบอร์ 4268 สีแดง (จะไม่ใช้ก็ได้) , ปริมาตรเนื้อโลหะ อยู่ที่ 39-42%

การทาในขณะเปียกควรทาหรือพ่นให้หนา 2.5-5 mils (62.5-125 Microns) เมื่อแห้งแล้วควรมีความหนาประมาณ 1-2 mils (25-50 Microns)

สี 1 gallon สามารถทาได้ 265-575 ตารางฟุต หรือ 6.5-14.1 ตารางเมตร/ลิตร ที่ความหนาที่แนะนำข้างบน โดยประมาณว่ามีการสูญหายประมาณ 15% เวลาที่ใช้ในการปล่อยให้แห้งที่อุณหภูมิ 70-80^๐F (21-27^๐C) และความชื้นสัมพัทธ์ 50% ประมาณ 1-2 ชั่วโมง , เวลาที่ควรใช้ให้หมด คือ 1-4 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะแห้ง แข็งจนทาไม่ได้ ทางที่ดี ค่อย ๆ แบ่งออกมาทาดีกว่า ของมันแพง ถ้าจะทาซ้ำ ควรจะทาซ้ำก่อน 24 ชม. เพราะเวลาที่สีจะแห้งแข็งคือ 24 ชม. และหลังจากนั้นควรจะอบพื้นผิวที่ความร้อนอย่างน้อย 300^๐F (149^๐C) ประมาณ 1 hour แต่ในกรณีที่เราทาปล่องของเรือ ก็คงไม่ต้องอบ แต่ปล่อยให้แห้งในอากาศร้อน หรือพอสีแข็งแล้ว ติดเครื่องให้ความร้อนจากไอเสียไปอบพื้นพิวเลยก็ได้

การใช้งาน จะทาโดยใช้ลูกกลิ้ง , แปรงทาสี หรือพ่นก็ได้ แต่ต้องเตรียมพื้นผิวให้สะอาด ไม่มีสนิม และความชื้น พื้นผิวควรจะมีอุณหภูมิ 32-100^๐F (0-38^๐C) และมีอุณหภูมิสูงกว่า จุด Dew Point อย่างน้อย 5^๐F (3^๐C) ในการใช้จะต้องเจือจางด้วย ทินเนอร์ของ Rust-Oleum เบอร์ 140 ซึ่งออกแบบมาสำหรับ สีซีรี่ส์ 4200 นี้โดยเฉพาะ

และอย่าลืมมีเครื่องป้องกันเวลาพ่น หรือทาโดยเฉพาะผ้าปิดจมูก และก๊อกเกิ้ล เนื่องจากเป็นสารพิษ มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาท ถ้าทาแล้วรู้สึกว่า มีไอระเหยมาก และมีละออง ควรจะหยุดทา และระบายอากาศ ถ้ามีอาการเวียนหัว , คลื่นเหียนอาเจียน , มึนงง ให้หยุดทาเช่นกัน และปฏิบัติตามหลักการทำลายล้างพิษ หรือพบแพทย์ และอย่าทา ถ้าระบบระบายอากาศไม่ดีพอ

การเก็บรักษา เนื่องจากเป็นสารไวไฟ Class II Combustible Liquid มี Flash point ที่ 104^๐F (40^๐C) จึงต้องเก็บไว้ในกระซับสี ที่มีการถ่ายเทอากาศสะดวก มีระบบน้ำหยาดด้วยจะดีมาก

ส่วนราคานั้น Rust-Oleum เบอร์ 4279 สีดำ ราคา 1,880 บาท

ทินเนอร์ เบอร์ 140 ราคา 325 บาท

จริง ๆ แล้ว ยังมีเบอร์ที่ทนความร้อนสูงถึง 600^๐C ด้วย แต่หาไม่ได้ หายาก ต้องสั่ง เพราะฉะนั้น ใครรีบ ๆ ก็เอาเบอร์นี้มาใช้แล้วกัน พอใช้ได้ ส่วนยี่ห้ออื่น ๆ ไม่แน่ใจ เพราะหาข้อมูลไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ ส่วนใหญ่จะมีแต่สีเงิน ซึ่งใช้ไม่ได้ จะเอามาทารองพื้นแล้วเอาสีดำธรรมดา ทาทับ ก็ไม่ได้ เพราะว่าสีชั้นนอกมันไม่ทนความร้อน ทาทับไปก็ลอกเห็นสีเงินอยู่ดี

ส่วนร้านที่จำหน่ายนั้น ณ วันนี้ หาได้แต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แถบระยอง จะมีแต่สีเงิน แต่จะมีอีกที่ก็คงภูเก็ต , พังงา , กระบี่ แต่เป็นยี่ห้ออื่น เพราะว่า ที่นั่นมีตัวแทนจำหน่ายสีอุตสาหกรรม โจตัน ,ไอซีโอ รายใหญ่อยู่ ยังงัยใครที่เข้ามาหาข้อมูล ลองถามหาดูได้นะครับ

เว็บไซต์ ร้านค้าที่ขายสีอุตสาหกรรม

SANGSIAM HARDWARE LTD., PART. ร้านนี้เป็นร้านที่ไปซื้อสีในครั้งนี้มา

สีทนความร้อน | Dyno Paints Limited บริษัทที่นำเข้าสี Rust-Oleum เข้าไปดูรายการสี และโทรไปถามหาร้านตัวแทนจำหน่ายได้ ที่ระยองมีอยู่ร้านเดียว

http://www.ans-group.com/index2.htm บริษัทสีรายใหญ่ทางภาคใต้ ใครอยู่ฐานทัพเรือพังงา ปรึกษาร้านนี้ดีที่สุด